2 อันตรายจากแบตเตอรี่รถยนต์
2 อันตรายจากแบตเตอรี่รถยนต์
วันนี้ ผมมีอันตรายที่หลายคนคิดไม่ถึงมาฝากโดยปัญหานี้บังเอิญได้คุยกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งมีกิจการอู่ซ่อมรถยนต์ และมีข้อมูลตรงกับผู้เชี่ยวชาญ จากบริษัท Bosch ประเทศไทย ที่มาอบรมณ์ให้ความรู้เกี่ยวกับด้านยานยนต์ ซึ่งจากสายงานอาชีพที่เกี่ยวข้องเป็นประจำกับรถยนต์ จึงทำให้พบเจอปัญหานี้อยู่บ่อยครั้ง ผมเลยนำเอาความรู้ดี ๆ มาบอกต่อพี่น้องกันครับ
อันตรายที่ 1
กล่องควบคุม ECU (Electronic Control Unit) , สายไฟ , ชิ้นส่วนที่อยู่ข้าง ๆ แบตเตอรรี่ เสียหาย
ในรถยนต์หลาย ๆ รุ่น ที่ปัจจุบันกล่อง ECU จะติดตั้งอยู่ในห้องเครื่อง และมีตำแหน่งใกล้ ๆ กับ แบตเตอรี่ ส่วนบางคันที่ติดแก็ส ช่างก็เอากล่องควบคุมระบบแก๊สเชื้อเพลิงที่ติดตั้งเสริมเข้าไป ไปติดตั้งไว้ใกล้กับบริเวณแบตเตอรี่ และนี่แหละที่สำคัญ …. กล่อง ECU , สายไฟอยู่ใกล้กับแบตเตอรี่ อันตรายยังไง…?
ก่อนจะพูดประเด็นนี้ ต้องขอเคลียร์กับพี่น้องก่อนนะครับ ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการค้าขายแบตเตอรรี่แต่อย่างใด เพราะข้อมูลนี้ ได้มาจากอู่ซ่อมรถ และการเข้าอบรม และก็เจอกับตัวเองที่ได้เจอกับปัญหานี้ ซึ่งผู้ใช้รถหลายท่านนั้นอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รวมถึงร้านค้าหรือผู้จำหน่าย ก็ไม่ได้เป็นผู้ใช้รถเอง ก็แนะนำสินค้าราคาประหยัดให้ ดังนั้นจึงทำให้เกิดความเสียหายตรงนี้ได้ นั่นก็คือ
แบตเตอรี่ ที่เป็น “แบตน้ำ” หรือว่าเป็นแบบที่ต้องเติมน้ำกลั่น มักจะปัญหาที่ตามมานั่นก็คือ เมื่อรถมีการชาร์ตไฟเข้าที่แบตเตอรี่จะทำให้น้ำกลั่นเดือด แล้วทำให้ไอของน้ำกลั่นระเหยอออกมา แล้วไอก็จะไปโดนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ และแล้ว ก็เกิดปัญหา กล่อง ECU ,สายไฟ ฯลฯ โดนกัดกร่อน และแน่นอน ไม่นานงานก็จะเข้า หากเราไม่ใส่ใจครับ
ปล.ผมเองก็เคยเห็นไฟไหม้ จากการที่สายไฟโดนน้ำกรด กัด จนสายทองแดงโผล่ออกมาแตะตัวถัง ควันขึ้น ไฟลุกต่อหน้าต่อตาเลยครับ
อันตรายที่ 2
ตัวถังผุกร่อน เป็นสนิม
อันนี้ปัญหาคลาสสิก สำหรับรถยนต์แทบทุกรุ่น ที่เจ้าของใช้แบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น ซึ่งส่วนใหญ่มักจะซุกซ่อนอยู่ตามซอกมุม โดยเฉพาะใต้ฐานแบตเตอรี่ ที่มักจะเป็นสนิมก่อนส่วนอื่น ๆ จนถึงกับผุ ทะลุ เป็นรูกันเลยทีเดียวครับ
ซึ่งตรงนี้เราสามารถมองเห็นได้ง่าย ๆ จากรถรุ่นเก่า ๆ หรือถ้าเอาจริง ๆ ออกมาไม่ถึงปีก็เป็นกันเยอะเลย ครับ ถ้าไม่รักษาหรือระมัดระวัง
แล้วเราจะหาทางป้องกัน อย่างไร…?
- ง่ายที่สุดแต่ใช้เงินเยอะหน่อย นั้นคือ เลือกใช้แบตเตอรี่แห้งไปเลย ครับ ราคาสูงหน่อย แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนบ่อย ถือว่าคุ้มค่า…. กับสิ่งที่ต้องเสียครับ
- ถูกลงมาหน่อย ก็ใช้แบตไฮบริด ที่มีน้ำกลั้น แต่ไม่ต้องหมั่นเติมครับ (เห็นทางร้านเขาบอกมาว่า 1 ปี ดูน้ำกลั่น 1 ครั้ง) แบบนี้เวลาใช้งาน แทบจะไม่มีไอระเหยออกมาเลย แล้วแบตก็ยังอึดทนแรงไม่แพ้กัน (จากความรู้สึกส่วนตัว)
- ถูกที่สุดคือให้ดูถาดรองแบตเตอรรี่ ที่เป็นพลาสติก บางคนหายไป หรือแตกร้าวจนน้ำกรดรั่วไหลลงมาโดนตัวถัง ซึ่งถาดนี้หาซื้อตามคลองถม จะช่วยลดความเสียหายได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเสียหายเลยครับ (แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่าก็ยังไม่ OK)
ก็ฝากเกร็ดความรู้เอาไว้เล็กน้อยนะครับ
แล้วผมจะทะยอยแบ่งปันความรู้ที่มีให้พี่น้องอีกเรื่อย ๆ
“เพราะเราต่างก็ รักรถของเรา”
ปกป้องรถที่คุณรัก ใน 30 นาทีด้วย UnderGuard
รับประกันความพึงพอใจ
>>คลิ๊ก<<
หรือที่ Facebook คลิกที่ภาพ >>>>